เรื่องควรรู้ก่อนเสริมจมูก

จมูก มักเป็นอวัยวะยอดฮิตที่ คนไข้เลือกที่จะทำศัลยกรรมเป็นราย การแรกๆ อาจเนื่องมาจาก เป็น อวัยวะที่มีหนึ่งเดียวบนใบหน้า และ อยู่กลางใบหน้าของเรา
ดั้งนั้นเมื่อมี การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นทั้งรูปทรง และองศาจึงทำให้ใบหน้ามีการ เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน
การทำศัลยกรรมจมูกนั้นแบ่ง ง่ายๆ เป็น 2 แบบคือ
เสริมจมูก แบบปิด
( closed or semiopen rhinoplasty ) ส่วนมากการเสริม จมูกเริ่มต้นในครั้งแรกสำหรับคนไข้ ที่ไม่ได้มีปัญหาจมูกมากมายมักทำ แบบนี้
เนื่องด้วยเพราะว่าเกิดแผล น้อย ระยะเวลาพักฟื้นไม่นานมาก แต่สำหรับคนไข้ที่มีปัญหาเรื่อง โครงสร้างจมูกเช่น จมูกคด จมูกสั้น จมูกที่ผ่านการศัลยกรรมมาหลายๆ ครั้ง เสริมจมูกแบบเปิด
( open rhinoplasty ) อาจจะเป็นทางเลือกที่ ดีกว่า เนื่องจากการศัลยกรรมแบบ เปิดนั้น จะมีการเปิดแผลที่กว้างกว่า แพทย์จึงสามารถเข้าไปจัดการปรับ โครงสร้างภายในได้ดีกว่า แน่นอน ผลที่ตามมาคือบาดแผลอาจได้รับ บาดเจ็บมากกว่า ระยะเวลาพักฟื้น มากกว่า และที่สำคัญภาวะ แทรกซ้อนในการผ่าตัดก็พบได้สูง กว่าเช่นกัน ทำไมถึงต้องเสริมจมูกกับคุณหมอ เอมมี่

  1. หมอเอมมี่มือเบามาก ฉีดยาชาเจ็บ น้อยมาก
  2. หลังทำ บวมน้อยมาก ช้ำน้อย ใช้ เวลาพักฟื้นไม่นาน
  3. ทรงสวย เข้ากับใบหน้าเพราะหมอ เหลาซิลิโคนให้เคสต่อเคส
  4. โอกาสเบี้ยว เอียง ตกแกน น้อย มากเนื่องจากหมอประเมินโครงสร้างจมูกคนไข้ก่อนทุกเคส และขณะผ่าตัดหมอเหลาให้ซิลิโคน ล็อคแน่นกับทุกจุดสัมผัสของกระดูกจมูก 
  5. ดูแลกันนานๆ มีนัดติดตามผล 2 สัปดาห์ 1 3 6 เดือน และรับประกัน จนถึง 1 ปีเต็ม

เตรียมตัวก่อนเสริมจมูก

  1. งดสูบบุหรี่ ,งดเครื่องดื่มแอ ลกฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  2. งดยาแก้ปวด งดลดกล้ามเนื้อ อักเสบ ก่อนผ่าตัด เช่น ยากลุ่ม แอสไพริน (Aspirin) หรือ ไอบิวโพ รเฟน (Ibuprofen) เพื่อลดอาการ ฟกช้ำจากเลือดคั่งหลังผ่าตัด
  3. งดวิตามิน น้ำมันตับปลา อาหาร เสริมต่างๆ ทุกชนิด เนื่องจากอาหาร เสริมเหล่านี้ ทำให้เกิดอาการเลือด หยุดไหลช้า ส่งผลให้หมอผ่าตัดยาก และจากหลังผ่าจะมีรอยบวมช้ำเขียว

 

10 ข้อห้ามหลังจากเสริมจมูก

  1. หลีกเลี่ยงการโดนแผล หรือทำ แผลโดยไม่จำเป็น ห้ามจับ แกะ แคะแงะ หรือกระแทก เพื่อให้อาการหลัง ผ่าตัดเสริมจมูกกลับสู่สภาพปกติให้ เร็วที่สุด
  2. ประคบเย็นติดต่อกันหลังจาก ผ่าตัดเสริมจมูกต่อเนื่อง 3 วัน จาก นั้นประคบอุ่น เพื่อให้เลือดไหลเวียน ได้ดีขึ้น
  3. งดสูบบุหรี่ ,งดเครื่องดื่มแอ ลกฮอล์ทุกชนิด
  4. ทานยาตามที่แพทย์จัดให้ตรงตาม เวลาอย่างเคร่งคัดและทานต่อเนื่อง จนกว่ายาจะหมด
  5. เฝ้าระวังเรื่องการทีน้ำมูกไหล พยายามให้น้ำมูกสัมผัสแผลน้อย ที่สุด
  6. งดอาหารทะเล ปลาทะเลที่ไม่สด เนื่องจากอาจจะมีสารที่ก่อให้เกิด การอักเสบได้
  7. ห้ามกินอาหารจำพวกของหมัก ดอง เนื่องจากจะทำให้แผลหายช้า
  8. งดออกกำลังกายประเภทที่มีความเสี่ยงต่อการปะทะหรือการกระแทก
  9. หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่น ละอองและควันเยอะ ซึ่งเป็นสาเหตุ หลักๆ ที่จะทำให้เกิดการแพ้อากาศ รวมถึงอาการไอ จาม และสั่งน้ำมูก
  10. งดกิจกรรมเสริมความงามเกี่ยว กับใบหน้า เช่น กดสิว, ทำทรีทเม้นท์ ยิงเลเซอร์ให้ผิวหน้า การใช้มือกด